มีข้อมูลยืนยันมากมายว่า คนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือแม้แต่เพื่อนของเราที่เป็น LBT เขาอาจจะยังต้องปิดบังตัวตนกับคนในที่ทำงาน เพราะกลัวว่าจะมีคนในที่ทำงานที่ไม่มีแนวคิดโอบรับความหลากหลายจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบในเชิงลบ กลัวว่าคนเขาจะเรียกด้วยคำว่า “รักร่วมเพศ” ที่เป็นภาษาไม่น่าฟัง หรือมีการล้อเลียนกันเป็นเรื่องขำขัน และบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวและแปลกแยกจากคนอื่น
สำหรับเพื่อนๆ กลุ่ม LBT ไม่อยากเจอเรื่องแบบไหนบ้างในที่ทำงาน ที่ทำให้รู้สึกไม่สามารถเป็นตัวเองได้ หรือรู้สึกทำให้เราถูกลดทอนคุณค่าลง
หลายคนบอกว่าทำตัวไม่ถูกเมื่อมีเพื่อนบอกว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น lesbian Bisexual หรือแม้แต่เพื่อนที่มีบุคลิกเป็นทอม
เพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไรถึงจะไม่ถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ
ถ้าทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมเขาจะมองเราอย่างไร ถ้ารักษาระยะห่างเขาจะว่าไม่ชอบ รังเกียจ หรืออะไรรึเปล่า
แล้วจะพูดคำไหนไม่ให้สะเทือนใจเขา หรือคำไหนนะที่จะไปกระทบ และอาจจะเกิดความรู้สึกว่า ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี
ผู้มีความหลากหลายทางเพศ อยากจะมีเพื่อนร่วมงานแบบไหน
1. เราไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานมาทึกทักว่าเราเป็นเพศไหน หรือพูดจาหยอกล้อ ยิ่งทำแบบนั้นเรายิ่งรักษาระยะห่าง แม้เราจะมีท่าทางห้าวๆ แต่เราก็อยากจะเป็นเพื่อนกับทุกคนในที่ทำงาน ไม่อยากให้ใครมองเราจากบุคลิกภายนอกเพียงผิวเผินแล้วทึกทักเอาเองแล้วเรียกเราว่าทอม หรือ มาพูดกับเราว่า “ชอบผู้หญิงด้วยกันล่ะสิ” หรือมาแซว “ชอบสาวคนไหนเหรอ” การทึกทักเอาเองหรือการพูดล้อ ไม่ได้ช่วยในการลดช่องว่างและแสดงถึงความสนิทสนมระหว่างเพื่อนร่วมงาน แต่อาจทำให้คนกลุ่ม LBT ระมัดระวังตัว และรักษาระยะห่างกับเพื่อนที่ทำงาน ไม่ค่อยอยากเข้ารวมกลุ่มด้วย
2. ไม่ต้องเปิดตัว แทนพวกเรา หากเรารู้สึกปลอดภัยเราก็อาจจะเปิดตัวเองกับบางคน มันขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ในสังคมที่ทำงานแบบไหน แม้ปัจจุบันเพื่อนๆ กลุ่มหลากหลายทางเพศเขาจะเปิดเผยตัวในที่ทำงาน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพร้อมเปิดตัว บางคนยังรู้สึกลำบากใจหากต้องเปิดเผยเรื่องเพศในที่ทำงาน ทั้งนี้เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยและกลัวจะมีคนพูดหรือกล่าวถึงให้ไม่สบายใจ อยากให้เพื่อนในที่ทำงานเข้าใจว่า เราอาจจะเปิดตัวกับเพื่อนบางคน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเปิดเผยตัวกับทุกคน เพราะฉะนั้นไม่ต้องเปิดตัวแทนพวกเรา ไม่ต้องเอาเรื่องราวของเราไปพูดถึงก็จะช่วยให้เราสบายใจขึ้นมาก
3. เราอยากให้พูดคุยกับเราด้วยเรื่องปกติของคนทั่วไป คุยกับเราเรื่องอะไรก็ได้ จะเรื่องงาน เรื่องชีวิตก็คุยกับเราได้ อย่าจุ้นจ้านมากเกินไป
เพื่อนร่วมงานคุยกับเราแบบปกติทั่วไปได้ ไม่ต้องคิดว่าต้องหาเรื่องเฉพาะเกี่ยวกับวิถีทางเพศของเรามาคุยกับเราเพราะคิดว่าจะทำให้คุยกันรู้เรื่องหรือทำให้สนิทกับเราได้มากกว่า เช่น ถามเราว่า “พ่อแม่รู้รึเปล่าว่าเราเป็นแบบนี้” “พ่อแม่เรารับได้เหรอ” “เรามีเพศสัมพันธ์อย่างไร” “จะเรียกเราว่าเพื่อนชายหรือเพื่อนสาวดีนะ”
ไม่ต้องพูดหรือทำอะไรแบบนั้น เราอยากเป็นเพื่อนร่วมงานที่คุยกันในเรื่องปกติทั่วไป
4. ไม่ใช่ว่าพวกเราที่เป็นเพศหลากหลาย หรือกลุ่ม LBT จะรู้เรื่องศัพท์คำเรียกต่างๆ หรือทุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกลุ่มหลากหลายทางเพศ ไม่จำเป็นต้องเอาคำเรียกหรือศัพท์ที่เขานิยามมาพูดคุยกับเรา หรือเมื่อมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มหลากหลายทางเพศในสื่อแล้วใช้เป็นหัวข้อในการชวนคุยกับพวกเรา ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกเราทุกคนจะพูดคุยเรื่องพวกนี้ได้ การซักถามพวกเราด้วยเรื่องเหล่านี้ อาจจะทำให้พวกเราบางคนอึดอัด
การจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้หัวข้อเหล่านี้มาเป็นประเด็นการพูดคุย ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราสนใจ เรียนรู้นิสัยใจคอ ความคิด ความสนใจของเรา เหมือนที่เรียนรู้และพูดคุยกับคนอื่นๆ อยากให้เข้าใจว่าเราก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่อยากใช้ชีวิตของตัวเอง
5. เราอยากให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่เคียงข้าง เคารพความหลากหลายและอยู่ร่วมกันอย่างให้เกียรติ พูดแทนเราในเรื่องที่ควรพูด เรื่องใหญ่ในที่ทำงานคือเรื่องของการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มหลากหลายทางเพศรวมทั้งกลุ่ม LBT และเมื่อเราถูกปฏิบัติในทางที่ไม่ดี เราอยากมีเพื่อนที่เคียงข้างเรา เพื่อให้เราเข้มแข็งและยืนหยัดอยู่ได้
เราเข้าใจว่าในที่ทำงานมีคนแตกต่างหลากหลายในเรื่องของกรอบคิด และมีความเข้าใจในเรื่องวิถีทางเพศที่แตกต่างกัน หากมีคนในที่ทำงานปฏิบัติต่อเราไม่ดี พูดอะไรที่ไม่รักษามารยาท ล้อเลียนหรือล้อเล่นเราเป็นเรื่องขบขัน หรือเลือกปฏิบัติกับเราแบบไม่เท่าเทียม เราก็อยากให้เพื่อนร่วมงานของเราไม่ร่วมวงกับเขา ไม่ปล่อยเลยตามเลยเห็นว่าสิ่งที่พวกเราถูกกระทำนั้นไม่สำคัญ เราอยากให้เพื่อนอยู่เคียงข้างเรา ปฏิบัติอย่างให้เกียรติเราและทำให้คนอื่นๆ ในที่ทำงานเห็น ถ้ามีใครทำไม่ดีต่อเราก็ควรห้ามหรือตักเตือนให้เขารู้ตัว
หากเรามีเพื่อนร่วมงานที่จะช่วยพูดให้คนอื่นเข้าใจ และเคารพในตัวตนของเรา อยู่ร่วมในที่ทำงานเดียวกันอย่างให้เกียรติเสมอกัน ก็จะช่วยให้พวกเรารู้สึกปลอดภัยในที่ทำงาน และทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ในยุคที่สังคมเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น การทำงานร่วมกันในที่ทำงาน ที่มีคนหลากหลายทางเพศจึงเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป โดยกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) มักมีความต้องการด้านการทำงานและเพื่อนร่วมงานที่มีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง ที่ช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดีขึ้น ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณลักษณะและลักษณะของเพื่อนร่วมงานที่คนหลากหลายทางเพศมองหา
1. ความเข้าใจและยอมรับความแตกต่าง
สิ่งแรกที่ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต้องการจากเพื่อนร่วมงานคือ การที่พวกเขาได้รับการยอมรับในความเป็นตัวเอง การมีเพื่อนร่วมงานที่ยอมรับและเข้าใจว่าทุกคนมีความแตกต่างทั้งในเรื่องเพศ ความชอบ หรือการแสดงออกเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ควรมีการตัดสินหรือวิจารณ์เกี่ยวกับเพศหรือการแสดงออกของใคร หากเพื่อนร่วมงานเปิดใจกว้างและยอมรับความแตกต่างได้จะช่วยลดแรงกดดันและสร้างความเชื่อมั่นในที่ทำงานได้อย่างดี
2. การไม่ตัดสินและเคารพในพื้นที่ส่วนตัว
หลายคนในกลุ่ม LGBTQ+ ต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่รู้สึกปลอดภัย และเป็นส่วนตัว การไม่ตัดสินหรือซักถามในเรื่องส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว และเพศสภาพของพวกเขา เช่น การตั้งคำถามเกี่ยวกับการแต่งงาน หรือความสัมพันธ์ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกกดดัน การเคารพในพื้นที่ส่วนตัวและการเว้นระยะในการสื่อสารจึงเป็นสิ่งสำคัญ
3. การสนับสนุนและแสดงออกถึงการสนับสนุน
เพื่อนร่วมงานที่สามารถแสดงการสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นที่ต้องการของกลุ่ม LGBTQ+ การใช้ภาษาที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้รู้สึกถูกแปลกแยก การใช้สรรพนามที่ถูกต้องตามที่เพื่อนร่วมงานระบุ หรือการไม่ใช้คำพูดที่อาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดหรือล่วงเกิน เป็นการสนับสนุนเล็กๆ ที่สร้างความอบอุ่นใจได้มาก หากเพื่อนร่วมงานรู้จักแสดงความสนับสนุนและสามารถยืนยันความเคารพในการแสดงออกได้ จะช่วยให้พวกเขารู้สึกว่ามีพันธมิตรในที่ทำงานที่พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างกัน
4. ความสามารถในการสื่อสารและเปิดรับฟัง
การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการทำงานในทุกทีม แต่สำหรับคนหลากหลายทางเพศ การมีเพื่อนร่วมงานที่มีทักษะในการสื่อสารและเปิดใจรับฟังความคิดเห็น จะช่วยให้เกิดความเข้าใจและการทำงานร่วมกันที่ราบรื่น การให้พื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น การรับฟังความกังวลและปัญหาต่างๆ โดยไม่ตัดสินใจล่วงหน้า จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเสียงของพวกเขามีค่าและได้รับการเคารพในที่ทำงาน
5. การปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ความเสมอภาคเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ คนหลากหลายทางเพศ ต้องการในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานที่ปฏิบัติและให้ความเคารพอย่างเท่าเทียมโดยไม่สนใจว่าพวกเขาเป็นใคร จะช่วยให้ทุกคนในทีมรู้สึกถึงความยุติธรรมและมั่นใจในการแสดงความสามารถของตนอย่างเต็มที่ การให้โอกาสในการพัฒนาตนเองที่เท่าเทียม การให้เครดิตเมื่อทำผลงานดี หรือการมีโอกาสเลื่อนตำแหน่งเท่ากันโดยไม่สนใจว่าเป็น LGBTQ+ หรือไม่ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
6. การสร้างบรรยากาศที่ดีและความสัมพันธ์ในทีม
บรรยากาศในทีมที่ดีจะช่วยให้คนหลากหลายทางเพศรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงานได้ การมีเพื่อนร่วมงานที่เต็มใจสนับสนุนกัน ไม่ว่าจะเป็นในการทำงานหรือกิจกรรมร่วมกัน จะช่วยให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายและพร้อมที่จะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ การจัดกิจกรรมหรือการมีสังสรรค์ที่เป็นกันเองในทีมก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้น
สำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ การมีเพื่อนร่วมงานที่เปิดใจ ยอมรับความแตกต่าง สนับสนุนอย่างแท้จริง และให้ความเคารพในตัวตนของพวกเขานับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อนร่วมงานที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เกิดบรรยากาศที่ดีในที่ทำงาน แต่ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นและพลังใจให้กับทุกคนในทีมได้อย่างยั่งยืน เมื่อทุกคนได้รับการสนับสนุนและได้รับโอกาสที่เท่าเทียม การทำงานร่วมกันก็จะเป็นไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น